นก


นกเป็นสัตว์ที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ในตัวเองที่แตกต่างกันไป เท่าที่ศึกษากันมาคาดว่ามีนกอยู่ในโลกประมาณ 9,000 ชนิด ในประเทศไทยมีประมาณ 917 ชนิด ใน 89 วงศ์ เป็นนกที่มีการผสมพันธุ์ในประเทศ 638 ชนิด มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศ 167 ชนิด นกอพยพ 23 ชนิด ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นนกที่อยู่ในภาวะอาจจะสูญพันธุ์ 190 ชนิด และที่ใกล้จะสูญพันธุ์ 93 ชนิด นกที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุด คือ พวกที่อาศัยอยู่ในที่ลุ่มทั้งในป่าและแหล่งน้ำต่างๆ

นกที่อาศัยตามชายฝั่งทะเลและนกในป่าชายเลนที่พบโดยทั่วไปจะกินพืช
และสัตว์น้ำเป็นอาหาร ลักษณะเด่น คือ มีขายาว คอยาว จงอยปากยาว เพื่อสะดวกในการหาอาหาร เช่น เหยี่ยวแดง (Brahminy kite : Haliastur indus) นกกินเปี้ยว (Collared kingfisher : Halcyon chloris) นกหัวโตขาดำ (Kentish piove : Charadrius alexan drinus) นกหัวโตขาเหลือง (Luttke rubged plover : C.dubius) นกเด้าดิน (Common sandpiper : Actites hypoleucos) นกเลนชายฝั่ง (Marsh sandpiper : Tringa stagnatilis) นกทะเลขาแดงธรรมดา (Common redshank : T.totanus) นกอีก๋อยเล็ก (Whimbrel : Numenius phoeopus) นกนางนวลธรรมดา (Brown-headedgull : Larus bounnicephalus)

ในประเทศไทยนกชายฝั่งที่สำคัญมีอยู่หลายชนิด หนึ่งในจำนวนนั้น คือ นกชาปีไหน (Nicobar pigeon : Caloenas nicobarica) เป็นนกประจำถิ่นอยู่ในวงศ์นกเขา มีขนาดใหญ่กว่านกเขาทั่วไป หางสั้นขนสีเขียวแก่เลื่อม หางสีขาว ในประเทศไทยถือว่าพบเห็นได้ยากแต่จะพบอยู่ ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

คนเป็นจำนวนมากเข้าใจว่า นกเป็นเพียงสิ่งประดับในธรรมชาติซึ่งให้ความสวยงามเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว นกมีบทบาทที่สำคัญมาก ต่อการคงอยู่ของสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะพวกพืชและต่อการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศน์ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ การเป็นผู้ผสมเกสรดอกไม้ กระจายเมล็ดพันธุ์ และการเป็นทั้งเหยื่อและผู้ล่าของห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติและระบบนิเวศน์แล้ว นกยังมีประโยชน์ต่อมนุษย์เราทางด้านจิตใจ อีกด้วย เนื่องจากความหลากหลายของชนิด ความงดงามของสีสัน ความน่ารักของพฤติกรรมและท่าทางของนก ทำให้กิจกรรมการดูนกเป็นที่ สนใจและรื่นรมย์ของผู้คนที่ได้มีโอกาสพบเห็น นกจึงเป็นเสมือนชนวนจุดประกายกระแสความคิดในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ดี ตัวอย่างเช่น การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำในธรรมชาติ เกิดขึ้นจากกระแสความต้องการปกป้องพื้นที่พักอาศัยของนก ซึ่งอพยพจากดินแดนหนึ่ง ไปยังอีกดินแดนหนึ่งตามฤดูกาลโดยไม่คำนึงว่า ดินแดนที่ตนอพยพไปนั้นอยู่ในเขตแดนของประเทศใด จนเกิดเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศ เรียกว่า อนุสัญญาแรมซาร์ หรือ RANSARCONVENTION ซึ่งมีกำหนดมาจากการประชุมที่เรียกว่า Convention on Wetlands of Internation Importance Especially as Waterfowl Habitat นั่นเอง

แหล่งพักอาศัยของนกน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด บริเวณทุ่งสามร้อยยอด ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ตามธรรมชาติขนาดใหญ่ มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่เศและอยู่อาศัยอีกมากมายหลายชนิด การอนุรษ นอกจากการเป็นแหล่งพักพิงของนกน้ำอพยพนานาชนิดแล้วยังเป็นที่เพาะพันธุ์หา อาหารักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ไว้ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงเป็นไปตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญาแรมซาร์ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีพื้นที่ชุ่มน้ำอีกหลายแห่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกันนี้ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจที่จะดูแลรักษาและปกป้องไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ราบลุ่มปากแม่น้ำเจ้าพระยา บางปะกง และแม่กลอง ซึ่งพื้นที่เหล่านี้กำลังถูกกระแสการพัฒนาประเทศ การสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและมากมายกว่าการเก็บพื้นที่ชุ่มน้ำเหล่านั้น

ไว้สำหรับการเป็นที่อยู่อาศัยของนก และสัตว์น้ำอื่นๆ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรแบ่งปันผืนดินบนโลกให้กับนกและสัตว์เหล่านั้นบ้าง

ภาพวาดนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพที่พบในประเทศไทย รวบรวมขณะนี้ได้จำนวน 127 ภาพ แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ จำนวน 5 กลุ่ม ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการโหลดข้อมูล ท่านสามารถคลิ๊กดูได้ที่นี้


 

back