โคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน

เนื่องจากเวปมาสเตอร์ได้เคยไปอบรมการเลี้ยงโคเนื้อ รุ่นที่9 กับทาง มหาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการผลิตกระบือและโค และได้มีโอกาสได้เห็นและรู้เรื่องราวของวัวพันธ์กำแพงแสนและเห็นว่าเป็นวัวสายพันธ์ที่น่าเลี้ยงและเหมาะมาก
กับภูมิอากาศบ้านเรา ส่วนตัวของผมเห็นว่า การนำน้ำเชื้อวัวต่างประเทศมาปรับปรุงพันธ์นั้นทำให้ได้วัวที่ตัวโตขึ้นนั้นแล้วทำไม่ยาก แต่ ถ้าทำออกมาแล้ว ตัวโตแล้ว สามารถเลี้ยง และจัดการได้ไม่ยุ่งยาก และ มีความ เหมาะสมกับการเลี้ยงในสภาวะ อากาศ ในบ้านเราได้มากน้อยแค่ไหน และจะให้ ผลผลิตได้ดีไหม มีปัญหาเรื่องการเจริญพันธ์ไหม มีการวิจัยแล้วว่า วัวพันธ์กำแพงแสนนั้นมีความพร้อมและสมบูรณ์พันธ์มาก โดยได้ทั้งขนาดวัวที่ตัวใหญ่แล้วความสมบูรณ์พันธ์ก็ดีอีกต่างหาก แล้วยังสามารถเลี้ยงง่าย และที่สำคัญ เกษตรกรบ้านเรายังสามารถหามาเลี้ยงหรือ ทำการปรับปรุงพันธ์ขึ้นมาเองได้จากวัวพันธ์พื้นเมืองที่เคยเลี้ยงกันอยู่ โดยไม่ต้องไปหาซื้อพ่อแม่พันธ์ที่ ราคาแพง จึงอยากให้เพื่อนๆที่คิดจะเลี้ยงวัว และอยากจะพัฒนาสายพันธ์วัว ได้ลองมาดูโครงสร้างหรือขั้นตอนการพัฒนาและผลิตวัวพันธ์นี้ขึ้นมาด้วยฝีมือของคนไทยครับ
วัวพันธ์กำแพงแสนกำเนิดครั้งแรกที่ อ.กำแพงแสนจังหวัด นครปฐม โดยทาง ม.เกษตร กำแพงแสน เป็นผู้ทดลองปรับปรุงพันธ์ขึ้นมา โดยตั้งชื่อ ตามถิ่นที่วัวกำเนิด ว่า กำแพงแสน เจ้าวัวกำแพงแสนนั้นเป็นวัวที่ ประกอบไปด้วย วัว 3สายพันธ์ คือ
วัวพันธ์พื้นเมืองไทย 25%

 

วัวพันธ์บราห์มัน 25%

 

วัวพันธ์ชาโลเลส์ 50%

 

แผนผสมพันธุ์เพื่อสร้างโคพันธุ์กำแพงแสน

--------------------------------------------------------------------------------

โดยนำแม่วัวพันธ์พื้นเมือง ของไทย มาผสมกับวัวตัวผู้ พันธุ์ราห์มัน เมื่อได้ลูก ก็คือวัวพันธ์พื้นเมือง บราห์มัน นำวัวตัวเมีย (ซึ่งวัวลักษณะนี้ในบ้านเรามีเยอะมากครับ) มาผสมเทียมกับน้ำเชื้อ วัวพันธ์ชาโลเล่ส์ จึงได้วัวพันธ์กำแพงแสน D1 และ ถ้าจะผสมกันอีก ก็นำวัว กำแพงแสนD1กับD1มาผสมกันต่อไปจนได้ เป็นD2 ต่อไป ตามลำดับ
ซึ่งการที่มีเลือด วัวพันธ์พื้นเมืองไทยนั้น เพราะวัวพันธ์พื้นเมืองไทย มีความสมบูรณ์พันธ์ที่ดีเยี่ยม สามารถให้ลูกกันติดต่อกันทุกปี และยังทนสภาพแวดร้อนที่ร้อนได้ดี ส่วนวัวบราห์มันนั้นเป็นวัวที่มีโครงร่างที่ใหญ่เหมาะแก่การนำมาปรับโครงสร้างรูปร่างวัวไทย แต่ข้อเสียวัวพันธ์ บราห์มัน คือ ความสมบูรณ์พันธุ์ไม่ค่อยดี มันเป็นสัดช้าหลังจากให้ลูก แล้วจะกลับมาเป็นสัดได้ยากไปซักนิดยิ่งถ้าอาหารไม่สมบูรณ์แล้วจะมีปัญหาด้านนี้ครับ ส่วนวัวพันธุ์ ชาโลเล่ส์นั้น มีความเป็นวัวเนื้อ ที่ดีให้กล้ามเนื้อดี ให้เนื้อที่มีคุณภาพและอัตราการเจริญเติบโตดี ข้อเสียคือเป็นวัวเมืองหนาวไม่สามารถ นำวัวพันธ์แท้มาเลี้ยงในอากาศที่ร้อนชื้นในประเทศไทยได้ ถ้าจะนำมาเลี้ยงต้องเลี้ยงในห้องที่มีการปรับอุณหภูมิที่เย็น
และการมี3สายเลือดที่พอเหมาะมันจึงโครงสร้างที่ดีตัวใหญ่ให้อัตราการเติบโตที่ดี และยังมีความสมบูรณ์พันธ์ที่ดี และทนร้อนได้ดีอีกด้วย

back